รายงานผลการแข่งขัน เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้าน พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สรุปการแข่งขัน
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
- เจมี่ วาร์ดี้ มีโอกาสยิงตั้งแต่นาทีที่ 8 ของการแข่งขันแต่ไปโดนเสา
- แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล โชว์ ซุปเปอร์เซฟใส่ ลูกโทษของ กาเบรียล เฆซุส
- แมตตี้ เจมส์ ลงเล่นพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังไม่ได้ลงเล่นตั้งแต่มีนาคมปี 2018
การแข่งขันระหว่างเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้าน พบ แมนฯ ซิตี้ นั้น จิ้งจอกคว้าชัยเพียงนัดเดียวจากการแข่งขัน 5 นัดที่ผ่านมา
วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ กลับมาเล่นให้กับกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับได้แล้วหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ฮัมซ่า เชาดูรี่ ก็ติดโทษแบนอีก 1 นัด
แม็ตตี้ เจมส์ จะได้กลับมามีส่วนร่วมกับทีมเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน โดยนั่งสำรองในนัดนี้ ขณะที่ ไรอัน เบนเน็ตต์ พร้อมเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกหลังถูกห้ามเล่นในเกมก่อนเนื่องจากเป็นการพบกับ วูล์ฟส์ ต้นสังกัดแม่ที่ปล่อยยืมมา
เปิดมาเพียงสองนาที ติเลอมองส์ แย่งบอลได้ในโซนมิดฟิลด์ ส่งให้ริคาร์โด้ ที่พยายามส่งต่อให้วาร์ดี้ที่รออยู่โซนหน้าแต่ ลาปอร์เต้ สกัดออกไปได้
นาทีที่ 8 วาร์ดี้ ที่ขึ้นเป็นดาวซัลโว ของพรีเมียร์ลีกมีโอกาสยิง หลังอิเฮียนาโช่จ่ายลูกให้ วิ่งขึ้นหน้า แล้วมีแค่ เอแดร์สันนายทวารที่คอยกันเท่านั้นแต่กลับยิงไปโดนเสาสอง......อีกนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 9 ชไมเคิ่ล เซฟ จากลูกยิงของมาห์เรซ อดีตเพื่อนร่วมทีม
นาทีที่ 17 กุนโดกันได้จังหวะยิงในกรอบแต่ชไมเคิ่ล ใช้เท้าสกัดบอลออกไปได้
นาทีที่ 21 ฟุคส์ ส่งบอลให้แมดดิสันได้อย่างแม่นยำและต่อบอลให้กับแมดดิสัน ที่ส่งต่อให้ อิเฮียนาโช่ ลากบอลขึ้นหน้าแล้วยิง แต่เอแดร์สันรับไว้ได้ ทว่า ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าอยู่ดี
อีก 5 นาทีต่อมา เลสเตอร์ ได้ฟรีคิก นอกเขตโทษ หลัง กุนโดกันทำฟาล์ว อิเฮียนาโช่ ในความพยายามลากบอลขึ้นหน้า
แต่แมดดิสัน ที่รับหน้าที่ยิงกลับไปติดกำแพงนักเตะ
นาทีที่ 37 แมดดิสัน ทำหน้าที่ยิงฟรีคิก นอกเขตโทษอีกแล้ว คราวนี้เอแดร์สันต้องพุ่งกระโดดปัดบอลออก.....อีกนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 21 ฟุคส์ ส่งบอลให้แมดดิสันได้อย่างแม่นยำและต่อบอลให้กับแมดดิสัน ที่ส่งต่อให้ อิเฮียนาโช่ ลากบอลขึ้นหน้าแล้วยิง แต่เอแดร์สันรับไว้ได้ ทว่า ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าอยู่ดี
อีก 5 นาทีต่อมา เลสเตอร์ ได้ฟรีคิก นอกเขตโทษ หลัง กุนโดกันทำฟาล์ว อิเฮียนาโช่ ในความพยายามลากบอลขึ้นหน้า
แต่แมดดิสัน ที่รับหน้าที่ยิงกลับไปติดกำแพงนักเตะ
นาทีที่ 37 แมดดิสัน ทำหน้าที่ยิงฟรีคิก นอกเขตโทษอีกแล้ว คราวนี้เอแดร์สันต้องพุ่งกระโดดปัดบอลออก.....อีกนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 39 แมดดิสัน ส่งลูกเข้ากลางให้ อิเฮียนาโช่ซึ่งกระโดดโหม่งแต่เอแดร์สันกระโดดพุ่งใส่ อิเฮียนาโช่บาดเจ็บที่คอ
นาทีที่ 45 อเกวโร่ยิงแต่ผู้ตัดสินเป่าล้ำหน้าเสียก่อน
แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิก โดยมาห์เรซ รับเป็นคนยิง แต่พลาด เลสเตอร์ ยังโชคดี จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
เปิดครึ่งหลังมา ร็อดเจอร์ส ส่ง บาร์นส์ ลงแทน อิเฮียนาโช่
นาทีที่ 62 เดนนิส ปราท ทำฟาล์ว แฮนด์บอล ผู้ตัดสินเช็ค วีเออาร์ แล้วให้จุดโทษ โดย อเกวโร่รับหน้าที่ แต่แคสเปอร์ โชว์ ซุปเปอร์เซฟ!!!!
สองนาทีถัดมา แคสเปอร์ เซฟลูกยิงจา อเกวโร่ ได้อีกครั้ง นาทีที่ 70 ริคาร์โด สกัดบอลได้จากครึ่งสนาม โยนยาวขึ้นหน้าให้วาร์ดี้ ยิงแต่ ออกหลังอีกแล้ว
นาทีที่ 75 บาร์นส์ ลากบอลขึ้นขวาส่งต่อให้ริคาร์โดยิงแต่ลูกยิงโดนทิ้งออกไป
นาทีที่ 80 วาร์ดี้ เก็บบอลจากกลางสนามลากขึ้นหน้า ส่งต่อมาหน้าประตูหวังจะให้บาร์นส์ ที่รออยู่ในกรอบแต่สูงไปหน่อย
จังหวะสวนกลับนาทีที่ 81 กาเบรียล เฆซุส ยิงประตู ทำประตูแรกของการแข่งขันขึ้นนำให้กับทีมเยือน
เลสเตอร์ ซิตี้ ส่ง แมตตี้ เจมส์ ลงเล่นครั้งแรกหลังจากพักเล่นให้กับชุดใหญ่ถึง 13 เดือน
ช่วงท้ายเกมเลสเตอร์ ซิตี้ ไม่สามารถทำประตูได้ จบการแข่งขัน เลสเตอร์ ซิตี้ 0 แมนฯ ซิตี้ 1