Andy Impey

ตำนานผู้น่าจดจำ : แอนดี้ อิมปีย์

ตลอดชีวิตค้าแข้งของ แอนดี้ อิมปีย์ นั้น เขาลงสนามในเกมฟุตบอลอาชีพไปถึง 499 เกม ซึ่ง 178 นัดในนั้นมาจากการลงเล่นให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่ง จอห์น ฮัทชินสัน นักประวัติศาสตร์ของสโมสรได้มีโอกาสคุยกับ อิมปีย์ เกี่ยวกับเส้นทางการค้าแข้งที่อดีตวิงแบ็ครายนี้เริ่มต้นจากนอกลีกก่อนไต่เต้ามาเล่นในพรีเมียร์ลีกจนได้

อิมปีย์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ เยดดิ้ง ทีมในระดับท้องถิ่น ก่อนไปทดสอบฝีเท้ากับทีมดังในลีกสูงสุดเวลานั้นอย่างเชลซี , วัตฟอร์ด , สเปอร์ส และ วิมเบิลดัน เขายังทำได้ไม่ดีพอ แต่โอกาสมาถึงในเวลาต่อมา เมื่อ ควีนสพาร์ค เรนเจอร์ส ยื่นข้อเสนอให้เขาไปทดสอบฝีเท้า

ช่วงเวลาของ อิมปีย์ กับ เลสเตอร์ฯ ถือว่ายอดเยี่ยมไม่น้อย เมื่อหลังจากที่ย้ายมาจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แล้ว เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดแชมป์ ลีก คัพ, ได้ลงเล่นบอลยุโรป, ตกชั้น, เลื่อนชั้น พร้อมกับเป็นที่รักของแฟนๆมาตลอด โดยปัจจุบัน อิมปีย์ เป็นโค้ชให้กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส อดีตต้นสังกัดเก่า

โดยในชีวิต แอนดี้ ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกกับสามทีม ได้แก่ คิวพีอาร์, เวสต์แฮมฯ และ เลสเตอร์ ทว่าใครจะเชื่อว่าครั้งหนึ่งเขาต้องเริ่มต้นกับทีมนอกลีก หลังจากที่สมัยยังเป็นเด็ก อิมปีย์ ยังเล่นฟุตบอลแถวๆเขต เฮย์และมิดเดิลเซ็กส์ อยู่เลย

สโมสรแรกของเขาคือ เยดดิ้ง ทีมในระดับท้องถิ่น โดย อิมปีย์ เริ่มต้นกับทีมยู 18

“ที่ เยดดิ้ง เรามีโอกาสดวลกับทีมอย่าง เรดดิ้ง, เชลซี และ สวินดอน” แอนดี้ ย้อนความหลัง “เราชนะพวกเขาทุกทีมเลยนะ พวกเราหลายคนโดนเรียกขึ้นไปเล่นกับทีมสำรองด้วย บางคนได้เล่นเหมือนกัน และเรามีโอกาสโดนสโมสรอาชีพเรียกไปซ้อมในคืนวันอังคารและคืนวันพฤหัสฯ เหมือนกัน”

“ผมไปซ้อมทดสอบฝีเท้ากับ เชลซี , วัตฟอร์ด , สเปอร์ส และ วิมเบิลดัน แต่ผมทำได้ไม่ดีพอ ผมรู้สึกแย่เหมือนกัน จนเบื่อฟุตบอลเลย แต่ว่าผมก็หันกลับมาได้ ผมเล่นกับ เยดดิ้ง ทีมสำรอง ก่อนก้าวสู่ชุดใหญ่ และนั่นทำให้พวกแมวมองเริ่มสนใจผม”

Expand photo
Andy Impey

Impey was a part of the side which lifted the League Cup in 2000.

“ปีนั้น เราได้แชมป์ลีก ได้ถ้วยจากเอฟเอ วอสซ์ และไปถึงรอบชิง มิดเดิลเซ็กส์ คัพ จนทำให้ คิวพีอาร์ ยื่นข้อเสนอให้ผมไปทดสอบฝีเท้า ก่อนยื่นข้อเสนอให้ เยดดิ้ง ว่า ให้ผมเล่นกับทีมต่อไป เพราะตอนนั้น พวกเรากำลังไป เวมบลีย์ เพื่อชิงถ้วย เอฟเอ วอสซ์ ซึ่งสุดท้ายเราได้แชมป์ แต่ว่าผมไม่ได้อยู่ฉลองกับทีมหรอก เพราะวันรุ่งขึ้น(ช่วงมิถุนายน 1990) ผมต้องไปเซ็นสัญญากับ คิวพีอาร์ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเล่นบอลอาชีพของผม”

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลระดับอาชีพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

“ผมคือเด็กจากนอกลีก ผมต้องใช้เวลาเรียนรู้ถึง 9 เดือนเพื่อจะรู้ว่ามืออาชะต้องซ้อมยังไง ซีซั่นแรกของผม ผมเป็นตัวสำรองซักส่วนใหญ่ แล้วพวกเราก็มีลีกที่ชื่อว่า ฟุตบอลคอมบิเนชั่น ซึ่งเป็นลีกที่ให้เราลงเล่นกับพวกตัวเก๋าที่เคยเล่นลีกอาชีพมาก่อน”

หลังจากนั้น อิมปีย์ ทะลุขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1991 ก่อนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสรในปี 1993 ถึง 1995 สามปีซ้อน นอกจากนี้เขายังก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีอีกด้วย

“เราคือทีมที่ไม่ได้มีสตาร์ดัง แต่ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง นั่นทำให้เรามีทีมที่ดีจริงๆ” แอนดี้ เริ่มเล่า “เราอยู่แบบครอบครัว เราพยายามเอาสิ่งที่ซ้อมลงไปเล่นในสนามแข่งให้ได้ หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมที่ผมชอบคือ รอย วีเกลล์ เช่นเดียวกับ เลส เฟอร์ดินานด์ ที่เริ่มต้นอาชีพที่นี่ ก่อนไปได้ไกลสุดๆอย่างที่เรารู้กกัน หรือ เรย์ วิลกิ้นส์ ที่ตอนนั้นอายุประมาณ 35 ปี ก็เป็นเหมือนพ่อของทุกคน เป็นตัวอย่างที่ดี นอกจากนี้เรายังมี แดนนี่ แม็ดดิกซ์, อลัน แม็คโดนัลด์, ดาร์เรน พีค็อกซ์, เอียน ฮอลโลเวย์ และ เทรเวอร์ ซินแคลร์ ในทีมด้วย”

ทว่า คิวพีอาร์ เกิดตกชั้นในปี 1996 แต่ด้วยผลงานตลอดหลายปีของ อิมปีย์ ทำให้ เวสต์แฮมฯ อีกหนึ่งทีมในลอนดอน ยอมจ่ายเงิน 1.3 ล้านปอนด์เพื่อซื้อเข้าไป

“พวกเขาเปลี่ยนโค้ชจาก เรย์ วิลกิ้นส์ แล้วเอา สจ็วต ฮูสตัน และ บรูซ ริออซ(เป็นผู้ช่วย) เข้ามา พวกเขาเป็นโค้ชที่ดีนะ แต่ผมไม่ได้รู้สึกอินกับ คิวพีอาร์ อีกแล้ว ผมเล่นแชมเปี้ยนชิพอยู่ฤดูกาลนึง จากนั้น แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์(นายใหญ่เวสต์แฮมฯ) ก็ติดต่อผมเข้ามา ผมอยากย้ายทีมเช่นกัน แฮร์รี่ ยอดเยี่ยมมากๆ เขาทำให้ผมรู้สึกว่าอยากเล่นให้กับเขา”

ตอนนั้นผมกำลังขับรถไป น็อตติ้งแฮม แล้วจู่ๆ แฟรงค์ ซินแคลล์ เพื่อนสนิทของผมที่กำลังเล่นกับ เลสเตอร์ ก็โทรมา แล้วบอกว่า ‘อิมป์ มาร์ติน โอนีลล์ อยากได้แกมาอยู่ที่ เลสเตอร์ฯ เขาอยากเจอแก แกทำยังไงก็ได้ แต่อย่าเซ็นสัญญากับ ฟอเรสต์ นะ!

แอนดี้ อิมปีย์

ในปีแรกกับ “ขุนค้อน” อิมปีย์ ช่วยให้ทีมจบอันดับ 8 ของตาราง แต่ว่าในเดือน พฤศจิกายน 1998 อดีตแบ็คทีมชาติอังกฤษยู 21 ตัดสินใจย้ายซบ เลสเตอร์ฯ ที่มี มาร์ติน โอนีลล์ กุมบังเหียนอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีความซับซ้อนไม่น้อย

“ผมได้รับสายจาก คิวพีอาร์ ในคืนวันพฤหัสฯ โดยตอนนั้นผมมีเกมกับ ดาร์บี้ ในวันอาทิตย์ พวกเขาถามผมว่า ผมอยากไปเล่นกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไหม เพราะ เอเยนต์ กำลังเจรจาให้อยู่” แอนดี้ เล่าอดีต “ผมบอกไปว่า ถ้า เวสต์แฮมฯ ไม่อยากเก็บผมไว้แล้ว ผมก็จะไปคุยกับ ฟอเรสต์”

“เช้าวันถัดมา ผมเดินเข้าไปคุยกับ แฮร์รี่ ว่า ผมไม่ต้องไป ดาร์บี้ แล้วใช่ไหม เขามองที่ผมและบอกว่า ‘นายพูดบ้าอะไรเนี่ย’ ผมเลยบอกไปว่า ดีลย้ายทีมของผมกับ ฟอเรสต์ ใกล้จะจบแล้ว เขาเลยบอกผมว่า ‘ฟังนะ ฟังจากปากฉันนะ แกไปดาร์บี้ด้วย แกไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น’ แต่หลังจากนั้น เอเยนต์ ก็บอกผมว่า ดีลเรียบร้อยแล้ว ทำให้วันเสาร์ ผมเดินไปหา แฮร์รี่ อีกรอบ แล้วเขาก็บอกผมเหมือนเดิมว่า ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องไปคิดถึงคำพูดคนอื่น”

“แต่แล้วอยู่ๆ หัวหน้าทีมบริหารก็โทรหาเอเยนต์ผมและบอกว่า ผมไม่ต้องเดินทางไปกับทีม ผมเลยโทรหา แฮร์รี่ และเขาก็ยืนยันคำเดิม ท้ายที่สุด ผมไม่ได้ไปกับทีม และผมต้องไปเจอกับทีมงานของ ฟอเรสต์ ในวันจันทร์หรืออังคารต่อไป”

ทว่า เรื่องยังไม่จบที่ตรงนั้น

“ตอนนั้นผมกำลังขับรถไป น็อตติ้งแฮม แล้วจู่ๆ แฟรงค์ ซินแคลล์ เพื่อนสนิทของผมที่กำลังเล่นกับ เลสเตอร์ ก็โทรมา แล้วบอกว่า ‘อิมป์ มาร์ติน โอนีลล์ อยากได้แกมาอยู่ที่ เลสเตอร์ฯ เขาอยากเจอแก แกทำยังไงก็ได้ แต่อย่าเซ็นสัญญากับ ฟอเรสต์ นะเว้ย!’”

“เบื้องต้น ผมกับฟอเรสต์ตกลงด้วยวาจากันแล้ว ผมอยู่ห่างจากสนามพวกเขาแค่ 2 ชั่วโมง แต่หลังจากพูดคุยกับโอนีลล์ทางโทรศัพท์ ผมเลี้ยวรถไปหาเขา แทนที่จะไปที่น็อตติ้งแฮม และจบลงด้วยการเซ็นสัญญากับเลสเตอร์ ที่ปิดดีลกับเวสต์แฮมได้แล้ว ทุกอย่างมันรวดเร็วมาก”

Expand photo
Andy Impey

Impey predominately played for Leicester in the Premier League.

“เลสเตอร์ฯ คือบ้านหลังที่สองของผม ทุกอย่างมันเหมือนสมัยที่ผมอยู่กับคิวพีอาร์เลย ที่ เลสเตอร์ฯ ทุกคนเป็นมิตรมาก ตั้งแต่แม่บ้าน พนักงานชงชา คิตแมน ทุกตนจริงๆ เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ”

“โอนีลล์ เองก็เป็นโค้ชที่ไม่เหมือนใคร มีศิลปะในการจัดการคนที่ดีมาก ทุกคนในทีมต่างก็เข้ากับเขาได้ คนชอบบอกว่าเขาไม่ได้ซ้อมบอล แต่เขารู้วิธีทำงานร่วมกับนักเตะ และดึงศักยภาพออกมาจากพวกเขาได้สูงสุด สตีฟ วัลล์ฟอร์ดและจอห์น โรเบิร์ตสัน อยู่ที่นั่นเช่นกัน สตีฟ ลงแรงกับทุกอย่าง เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้มากจริงๆ เขาเป็นโค้ชที่ดีมาก เป็นคนคอยทำให้การซ้อมของเราสนุกสนานด้วยเสียงหัวเราะและมุขตลก แต่เมื่อใดที่คุณทุกข์ใจ เขาก็พร้อมจะอยู่ข้างคุณเสมอ”

อิมปีย์ อยู่ในทีมชุดที่คว้าแชมป์ ลีกคัพ เมื่อปี 2000 จากนั้น โอนีล ก็ย้ายไปคุมทีมกลาสโกว์ เซลติก ในอีก 5 เดือนถัดมา

เลสเตอร์ฯ แต่งตั้ง ปีเตอร์ เทย์เลอร์ เป็นกุนซือคนใหม่ ซึ่ง แอนดี้ อยู่ในทีมชุดพบ เร้ด สตาร์ เบลเกรด ใน ยูฟ่า คัพ นอกจากนี้ “จิ้งจอกสยาม” ยังมีช่วงที่ฟอร์มร้อนแรง พาทีมขึ้นรั้งอันดับ 4 พร้อมกับเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ ทว่าหลังจากนั้น พวกเขาฟอร์มตกยาว โดยแพ้ 9 จาก 10 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมีช่วงที่ทีมแพ้ถึง 8 นัดรวดด้วย จนสุดท้ายทำให้ เลสเตอร์ฯ จบเพียงอันดับ 13 ของตาราง

“ผมไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน จนวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราฟอร์มตกได้ขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะเราแพ้ วีคอมบ์ฯ ใน เอฟเอ คัพ มั้ง การแพ้ทีมที่มาจากดิวิชั่นต่ำกว่ามันทำให้พวกเราใจสลายมาก”

ฤดูกาลต่อมา เลสเตอร์ฯ ต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับเป็นการอำลาสนาม ฟิลเบิร์ต สตรีท โดยนัดสุดท้ายของซีซั่นยังอยู่ในความทรงจำของ อิมปีย์ เสมอ

“มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษเสมอที่ได้เล่นใน ฟิลเบิร์ต สตรีท แฟนๆ ได้โอกาสใกล้ชิดกับคุณจริงๆ เป็นความรู้สึกที่พิเศษ ที่นั่นเป็นสนามที่ผมมั่นใจใจว่า คุณต้องฝันอยากเล่น ตั้งแต่สมัยคุณเป็นเด็ก”

หลังจากนั้น ปีต่อมา อิมปีย์ คือกุญแจสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นกลับขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์นอกสนามที่วิกฤต เลสเตอร์ฯ กำลังต้องถูกควบคุมด้านการเงินในเวลานั้น

เลสเตอร์ฯคือครอบครัว มันเป็นมากกว่าที่ทำงานสำหรับคนส่วนมาก มันคือชีวิตของพวกเขา

แอนดี้ อิมปีย์

“ตอนนั้นมันลำบากมากๆ คุณต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันนำพาสโมสรอยู่รอดมาได้ เลสเตอร์ฯคือครอบครัว มันเป็นมากกว่าที่ทำงานสำหรับคนส่วนมาก มันคือชีวิตของพวกเขา ถ้าเป็นที่อื่น นักเตะย้ายมาแล้วจากไป ก่อนจะค่อยๆถูกลืม แต่ที่นั่นไม่ใช่ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะเป็นยังไงนะ แต่สมัยผม ถ้าผมออกไปซื้อของหรือเติมน้ำมัน แฟนๆจะมาหาเสมอ และเล่าให้ฟังว่า พวกเขาเชียร์ทีมตั้งแต่เมื่อไร ประสบการณ์ที่ได้เป็นแฟนเลสเตอร์ฯ เป็นอย่างไร ฯลฯ”

ซีซั่นถัดมา (2003/04) คือ ปีสุดท้ายของ อิมปีย์ กับ “จิ้งจอกสยาม” ซึ่งตอนนั้น เลสเตอร์ฯ ในฐานะ “น้องใหม่” มี มิคกี้ อดัมส์ คุมทีม พร้อมซื้อนักเตะเก๋าๆอย่าง เลา เฟอร์ดินานด์, สตีฟ โฮเวย์, คีธ กิลเลสพี, จอห์น เคอร์ติส, เคร็ก ฮิกส์เน็ตต์, เบน แธ็ตเชอร์ และ ลิลิย็อง นาลิส เข้ามา

“เรื่องดีในตอนนั้นคือ เราซื้อคนที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว” แอนดี้ รำลึก “ผมไม่ได้บอกว่า เพื่อนร่วมทีมคนอื่นไม่มีประสบการณ์นะ แต่เราก็มีหลายคนที่ย้ายออกไป ดังนั้นการนำตัวเก๋าๆมาช่วยประคองทีม มันช่วยได้เยอะเหมือนกัน”

ในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2004 หลังจากได้ลงเล่นเพียง 13 เกมในซีซั่นนั้น อิมปีย์ โยกไปเล่นให้กับ ฟอเรสต์ ที่มี โจ คินเนียร์ คุมทีม แบบยืมตัว

Expand photo
Andy Impey

Impey was also at the Club during their spell in the top flight under Micky Adams' management.

มันยากมากที่ผมตระหนักว่า เวลาของผมกับ เลสเตอร์ฯ มันถึงจุดจบแล้ว” แอนดี้ กล่าว “ผมถูกปล่อยยืมตัว ก่อนเซ็นสัญญาถาวรกับพวกเขาหลังจบฤดูกาล”

“ที่ ฟอเรสต์ ผมก็ทำได้ไม่ดีนะ ผมเริ่มคิดอยากจะรีไทร์หลังจบซีซั่น ผมมีบ้านที่ จาเมก้า ผมคิดถึงการใช้ชีวิตที่นั่น พักผ่อนให้พอ แต่แล้ว ไวซี่ย์ (เดนนิส ไวส์) ที่ตอนนั้นคุม มิลล์วอลล์ ก็โทรมา แล้วขอให้ผมไปช่วยเขาที่นั่นหน่อย”

 “เรย์(วินกิ้นส์) ผู้ช่วยของเขาก็โทรมาขอร้อง ผมบอกเขาทั้งคู่ว่า ผมจะไป มิลล์วอลล์ ได้ไง ผมเคยเล่นให้ เวสต์แฮมฯ นะ และพวกเขาทั้งคู่ที่เป็นเด็กเก่าเชลซีก็บอกว่า ทีพวกข้ายังคุม มิลล์วอลล์ ได้เหมือนกันเลย ดังนั้นผมไม่อยากทำให้เพื่อนผิดหวัง ทว่าชีวิตที่นั่น ไม่ดีเลย ผมเจ็บบ่อย และฝืนตัวเองบ่อยๆ ผมคิดย้อนเสมอว่า ผมไม่ควรไปที่นั่นเลย”

เดือนกันยายน ปี 2005 อิมปีย์ ย้ายไปร่วมทัพ โคเวนทรี ซิตี้ และแขวนสตั๊ดในปีต่อมา ปัจจุบัน เขาเป็นโค้ชทีมเยาวชนของควีนสพาร์ค เรนเจอร์ส สโมสรแรกในส่วนของ ทีมอคาเดมี่และทีมรุ่นอายุต่ำกว่า 23 ปี พร้อมส่งต่อประสบการณ์และความฝันของอดีตนักฟุตบอลจากนอกลีกที่ไปไกลถึงลีกอาชีพที่ดีที่สุดในโลกจากรุ่นสุ่นรุ่นต่อไป…

LATEST HEADLINES

LATEST PHOTOS

LATEST VIDEOS

Leicester City Crest

LATEST HEADLINES

LATEST VIDEOS

LATEST PHOTOS

Back

Get Game Pass

To watch or listen to Leicester City’s Sky Bet Championship matches live on Foxes Hub, you now need to have a Game Pass. Please click below to get yours and enjoy the action!

Buy Game Pass Now!