เปิดเกมมาได้เพียง 10 นาทีทั้งสองทีมมีโอกาสทำประตูแล้วโดยลูกเตะจากจามาล ลาสเซเลศโดนชไมเคิ่ล เซฟไว้ได้ ในขณะที่วาร์ดี้รับลูกหยอดเข้ากลางจากชิลเวลล์แต่ไม่ผ่านมาร์ติน ดูบราฟก้า
นาทีที่ 11 ติเลอมองส์ส่งบอลทะลุช่องมาให้กับแมดดิสันที่มองหาช่องส่งต่อให้เกรย์แต่โดนตัดบอลไปเสียก่อน
หนึ่งนาทีต่อมาบาร์นส์ได้จังหวะยิงจากซ้าย ฝั่งถนัดของนักเตะจากอคาเดมี่ แต่กว่าหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 15 ทีมเยือนได้ลูกฟรีคิกระยะเกือบ 25 หลา กลางกรอบเขตโทษโดย โซโลมอน รอนดอน รับหน้าที่เตะฟรีคิกแต่โชคเข้าข้างเลสเตอร์ ยิงไปโดนสามเหลี่ยมบอลกระเด้งออก
นาทีที่ 22 ดูบราฟก้าเซฟลูกจากชิลเวลล์ นับเป็นการเซฟครั้งที่ 2 ตั้งแต่คิกออฟ
อีก 6 นาทีต่อมาฮาร์วีย์มีโอกาสยิงอีกแต่ดูบราฟก้าเซฟไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 32 ลูกโหม่งจากอาโยเซ่ เปเรซทำประตูขึ้นนำให้กับนิวคาสเซิ่ล
และจากนั้นชไมเคิ่ลเซฟลูกจากมิเกล อัลมิร่อนนาทีที่ 35
ยูริ ติเลอมองส์โดนใบเหลืองจากการเข้าสกัดกับกีนักเตะชาวเกาหลี
จบครึ่งแรกทีมเยือนนำไปก่อน 1 – 0
เริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเป็น เลสเตอร์ ที่โหมบุกอย่างหนักนาทีที่ 50 วิลฟรีด เอ็นดิดี้ ได้ส่องไกลระยะประมาณ 24 หลาแต่วางเท้าไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 62 เจมส์ แมดดิสัน เปิดบอลไปเข้าหัว เจมี่ วาร์ดี้ ที่พยายามขึ้นโหม่งแต่สูงเกินไปทำให้โดนไม่เต็มและเลยออกเสาไกลไป
นาทีที่ 85 เจมี่ วาร์ดี้ หลุดขึ้นไปทางฝั่งซ้ายก่อนตัดสินใจซัดด้วยซ้ายแต่เบาและทิศทางไม่ดีบอลค่อยๆ ไหลไปเข้ามือ มาร์ติน ดูบราฟก้า อย่างง่ายดาย
ช่วงต่อเวลา 5 นาที เลสเตอร์ ไม่สามารถทำประตูได้ทำให้จบเกมพ่ายนิวคาสเซิ่ล 0-1