ฤดูกาลนี้นับว่าเป็นฤดูกาลเปิดตัวสำหรับแข้งวัย 22 ปี ที่ตอนนนี้เริ่มสั่งสมประสบการณ์จากการแข่งขัน
เขาเป็นนักเตะดาวรุ่งจากอคาเดมี่ในเกมรุกที่ฉกาจและรวดเร็วซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการแข่งขัน
เมื่อย้อนไปในปี 2016 เขาอายุเพียง 18 ปี ก่อนหน้าวันเกิดครบรอบ 19 ปีเพียงแค่ 2 วัน เราได้ร่วมทีมชุดใหญ่ในการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในการแข่งขันพบกับ เอฟซี ปอร์โต ต่อหน้าคนดูถึง 5 หมื่นคนที่สนามเอสตาดิโอ โด ดราเกา
เลสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบในฐานะผู้นำของกลุ่ม ในขณะนั้นได้ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ทำหน้าที่กุนซือ ก่อนพบกับ ลูกทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโตที่ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
แม้ว่าผลการแข่งขัน ไม่ได้สะท้อนให้เห็นความเป็นผู้นำกลุ่มที่ยอดเยี่ยม ในการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก แต่นั่นเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำอย่างยิ่งสำหรับนักเตะบางคน
บาร์นส์ ที่ได้นั่งสำรองในเกมนี้รับสัญญาณจาก กุุนซือ รานิเอรี่ ให้เปลี่ยนตัวแทน แดนนี่ ดริ้งค์วอเตอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นต่อได้
เขาลงเล่นในเสื้อแข่งหมายเลข 39 และลงเล่นโดยเหลือเพียง 14 นาที่ในการแข่งขัน พร้อมกับเพื่อนร่วมอคาเดมี่ อย่าง เบน ชิลเวลล์
"แม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาไม่เป็นที่พอใจของพวกเรา แต่สำหรับผมแล้วนี่เป็นอีกก้าวของความสำเร็จ นี่เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และผมดีใจสุดๆ ไปเลย"
"เมื่อวันจันทร์มีคนมาบอกว่าผมต้องเดินทางไปพร้อมกับชุดใหญ่ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้น"
"ผมตื่นเต้นมากเมื่อถูกเรียกให้ลงสนาม อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายผม และผมพร้อมเล่นในทันที"
"มันเยี่ยมมาก หากคุณทำได้ดีตอนซ้อมและเป็นที่สังเกตได้ คุณก็ย่อมมีโอกาส ผมต้องการเพียงที่จะพัฒนาความสามารถไปเรื่อยๆ และแข่งขันกับตัวเอง"
นั่นเป็นสัญญาณชี้ชัดว่า ฮาร์วีย์ บาร์นส์ พร้อมลงเล่นกับทีมชุดใหญ่แล้ว และเดือนถัดไปเขาย้ายเล่นให้กับ เอ็มเค ดอนส์ ในสัญญายืมตัว และยิงไป 5 ประตูในการแข่งขันสกายเบ็ทลีกวัน
เขาย้ายร่วมอีกครั้งในฤดูกาล 2017/18 โดยเล่นให้กับ บาร์นสลีย์ เพียงแค่ 5 เดือนและยิงประตูอีก 5 ประตูก่อนถูกเรียกกลับต้นสังกัดเมื่อต้นปี 2018
เขาลงเล่น 5 นัดให้กับสโมสรก่อนจบฤดูกาล 2017/18 ซึ่งรวมไปถึงนัดสำคัญกับเซาธ์แฮมป์ตัน
ฤดูกาลที่เค้าย้ายเล่นให้กับ เวสต์บรอม เมื่อปี 2018/19 นับเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของเขาในการยืมตัว เขาทำไปถึง 9 ประตูให้กับ เดอะ แบ็กกี้ส์ ก่อนถูกเรียกกลับให้มาเล่นในพรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ เรียกเขากลับมาต้นสังกัดเป็นครั้งที่ 2 เขาได้เริ่มต้นการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในนัดที่พ่ายให้กับ วูลฟ์ 4-3 ที่สนามโมลินิกส์ สเตเดี้ยม ซึ่งเขาเกือลทำประตูเสมอให้กับทีม
ประตูแรกในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกของเขาเกิดขึ้นในการแข่งขันเมื่อเดือนเมษายน ปี 2019
ในการแข่งขัน เวสต์แฮม นำอยู่ 2-1 และอยู่ในช่วงทดเจ็บของการแข่งขัน ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ลากบอลผ่าน ยูริ ติเลอมองส์ ก่อนยิงประตูผ่านมือลูคัส ฟาเบียนสกี้ ทำประตูเสมอในช่วงก่อนจบการแข่งขัน
เขายิงไป 1 ประตูและ แอสซิสต์ถึง 16 ครั้ง ในฤดูกาล 2018/19 นั่นเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เขามีชื่ออยู่ในผู้เล่นหลักในฤดูกาลถัดมา
และเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2019 เขาลงสำรองเป็นนัดที่ 2 หลังจากนัดแรกเสมอกับ วูลฟ์ฯ อย่างไร้สกอร์
เจมี่ วาร์ดี้ ต้องออกจากการแข่งขันกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ร็อดเจอร์ส เรียกบาร์นส์ที่เพิ่งเสร็จจากการวอร์มอัพ ให้ลงสนามทันที
เขาทำประตูหลังลงสำรองเพียง 6 นาทีเท่านั้น และนั่นเป็นประตูที่ดีที่สุดของเขาในสายอาชีพนี้
ฟุคส์ เก็บตกบอลจากกราบขวา หยอดเข้ากลางซึ่งไปเข้าทาง โซยุนคู กระโดดโหม่งและบอลกระดอนออกหลังไปที่กรอบโทษ ซึ่งบาร์นส์ รออยู่และได้จังหวะ วอลเล่ย์ผ่าน ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ไม่ทันตั้งรับ ประตูนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคมไปครองอีกด้วย
นั่นเป็นประตูแรกของเขาจาก 7 ประตูในฤดูกาล 2019/20 และในช่วงเดือนมกราคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์ เขาทำประตูในการแข่งขัน 3 นัดติดต่อกันอีกด้วย
ประตูจากการบุกเดี่ยวของเขาในการแข่งขันกับเบิร์นลีย์ ทีมจากบ้านเกิดของเขา เขายิงประตูในเกมพบกับเวสต์แฮม และประตูแรกของการแข่งขันกับเชลซี ผลงานรวมของเขาเป็นที่ประทับใจของทุกคน
"ใครๆ ก็ชอบที่จะยิงประตู ผมชอบมาก ทุกครั้งที่ผมลงแข่ง ผมจะหาโอกาสทำประตูเสมอ" ฮาร์วีย์ ให้สัมภาษณ์ กับ LCFC TV
"ผมไม่สามารถทำประตูสม่ำเสมอในทุกนัดได้ตามที่ต้องการ แต่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผมก็เริ่มทำได้ตลอด"