โคล้ด ปูแอล กุนซือเลสเตอร์ ซิตี้ปรับ 7 แท็กติก จากนัดที่ผ่านมา
ตั้งแต่เปิดเกมทั้งสองทีมยังไม่โอกาสทำประตูแม้ว่าจิ้งจอกสยามมีโอกาสทำเคาน์เตอร์ แอทแทค
นาทีที่ 14 ทีมเยือนได้ประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์ ยิงลูกระยะไกล แดนนี่ วอร์ดหมดสิทธิ์รับ แมน ซิตี้ ขึ้นนำไปก่อน 1-0
อีก 3 นาทีต่อมา แมนซิตี้ มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำ จากริยาด มาห์เรซ ในกรอบเขตโทษแต่บอลข้ามคานออกไป
โอกาสเป็นของเลสเตอร์ ซิตี้ จากจังหวะที่เดมาไร เกรย์ ยิงระยะไกลแต่ อริยาเน็ต มูริช พุ่งปัดออกไปได้
จากนั้นเจ้าบ้านรุกหนักแต่ไม่สามารถทำประตูได้ หมดเวลาครึ่งแรก เลสเตอร์ 0 แมนฯ ซิตี้ 1
เปิดครึ่งหลังมาได้ 2 นาที แมน ซิตี้มีโอกาสทำประตูอีกครั้งแต่ ไม่ผ่านแดนนี่ วอร์ด
นาทีที่ 53 เจมส์ แมดดิสัน เปลี่ยนตัวลงแทน ราชิด เกซซาล และ นาทีที่ 61 มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปลี่ยนตัวลงแทน อิบอร์ร่า
นาทีที่ 62 บราอิม ดิอ๊าซ รับบอลจาก เควิน เดอ บรอยน์ ลากบอลเข้าเขตโทษแต่กองหลังเลสเตอร์ ซิตี้ตามสกัดได้ทัน
ริยาด มาห์เรซ มีโอกาสทำประตูให้ทีมเยือนในนาทีที่ 67 แต่บอลออกหลัง
และแล้วเลสเตอร์ ซิตี้มีโอกาสตีเสมอ จากการส่งบอลยาวของวิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ให้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ยิงประตูสวยงาม อริยาเน็ต มูริช หมดสิทธิ์รับ ทำให้เจ้าบ้านเสมอทีมเยือน 1-1
จบเกม 90 นาที เลสเตอร์ 1 แมนฯ ซิตี้ 1 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ
แมน ซิตี้ ยิงลูกโทษได้แม่นยำกว่าทำให้เอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ไปได้ 3-1