ริคาร์โด้, แท็กกการ์ดและปาสคานุร่วมรณรงค์ต่อต้านการเหยียดผิว
ริคาร์โด้ เปเรยร่า ฟูลแบ็คของเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วมกับ อเล็กซ์ ปาสคานุ จากทีมเยาวชน U-23 พร้อมด้วย เจอร์รี่ แท็กการ์ด อดีตแข้งในตำนานของเลสเตอร์ ซิตี้ จัดงานเพื่อให้ความรู้กับเด็ก ๆ จากโรงเรียนในท้องถิ่นที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
แอลซีเอฟซี คอมมูนิตี้ ทรัสต์ (LCFC Community Trust) ร่วมกับพรีเมียร์ลีก ไพรเมอรี่ สตาร์ส และ องค์กร Show Racism the Red Card (SRtRC)
เชิญเด็กนักเรียนชั้นประถมจากทั่วทั้งมณฑลมาที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติที่ส่งผลกระทบทางลบและความเกลียดชังอาชญากรรมต่อสังคม
สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ทำงานร่วมกับ SRtRC ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1996 ให้ความรู้เกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีและเพื่อปลูกฝังพฤติกรรมเชิงบวกตั้งแต่วัยเด็ก
องค์กรที่ให้การฝึกอบรมแก่ผู้คนมากกว่า 50,000 คนทุกปี โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์จากวงการฟุตบอลและนักเตะเพื่อรับมือกับการเหยียดเชื้อชาติในชีวิตประจำวัน
“ผมคิดว่ามันสำคัญมากที่ทำกิจกรรมแบบนี้เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ เรียนรู้วิธีที่ถูกต้องในการแสดงออกว่าอะไรถูกอะไรผิดอะไร” ริคาร์โด้ เปเรยร่า แข้งวัย 25 ปีให้สัมภาษณ์กับ LCFC TV
“ก่อนที่ผมจะมาเป็นนักฟุตบอล ผมก็เป็นคนปกติและผมคิดว่ามันสำคัญมากที่จะอธิบายให้เด็ก ๆ เพราะบางครั้งพวกเขาเห็นเราเหมือนเป็นต้นแบบและเราต้องแสดงความเคารพต่อทุกคนแม้จะมีความต่างด้านสีผิว,ศาสนา,และรสนิยมทางเพศ ซึ่งผมคิดว่าสำคัญมาก”
“น่าเสียดายตอนที่ผมเติบโตขึ้นมาเราไม่เคยได้รับการศึกษาแบบนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตสมัยใหม่ที่ทุกคนจะได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องและการเหยียดผิวจะต้องหมดไป”
“ นับเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนได้เห็นในทิศทางเดียวกันและได้รับโอกาสเดียวกันตลอดชีวิตโดยการให้ความรู้แก่คนรุ่นใหม่และหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะได้เห็นจุดจบของการเหยียดผิว"
"การที่แอลซีเอฟซี คอมมูนิตี้ ทรัสต์กับโรงเรียนในท้องถิ่น ทำงานร่วมกับเด็ก ๆ พวกเขาจำเป็นต้องเปิดเผยถึงสิ่งที่มันเป็นและฟุตบอลเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดในจากสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้” ไรอัน บรอมยาร์ด เจ้าหน้าที่กีฬาประจำโรงเรียนกล่าว
“มีความกดดันอย่างมากสำหรับนักฟุตบอลโดยเฉพาะปัจจุบันนี้และสำหรับพวกเขาที่ได้เปิดเผยประสบการณ์ของพวกเขาให้กับเด็ก ๆ นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาสามารถให้การศึกษาแก่เด็ก ๆ ในรุ่นต่อ ๆ ไป”